เลือกฟิล์มกันรอยแบบไหน ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์

ตั้งแต่ที่สมาร์ทโฟนเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น การใช้มือถือแบบทัชสกรีนกลายเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยกันในชีวิตประจำวันกันซะแล้ว แถมยังทำให้ “ฟิล์มกันรอย” กลายเป็นไอเทมเสริมสุดฮิต เพราะแน่นอนว่าหลายคนอาจจะกลัวรอยขีดข่วน จอแตก จากการทำโทรศัพท์ตก หรือกระแทก การติดฟิล์มกันรอยช่วยให้เรารู้สึกอุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันฟิล์มกันรอยโทรศัพท์ มีให้เลือกหลายรูปแบบมาก ๆ วันนี้ผมเลยจะชวนทุกคนมาเลือกฟิล์มกันรอยให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองเพิ่มขึ้น ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย!

ฟิล์มกันรอยแบบใส สามารถป้องกันรอยขีดข่วนบนหน้าจอได้ด้วยการเคลือบฟิล์มแข็งบาง (Hard Coating) เนื้อฟิล์มติดง่าย ป้องกันการเกิดรอยบนแผ่นฟิล์มด้วยครับ ถือเป็นฟิล์มกันรอยขั้นเบสิกที่หลายคนนิยมใช้ เพราะเมื่อติดแล้วหน้าจอยังคมชัด สีสันสดใสเหมือนปกติ โดยตัวแผ่นฟิล์มจะมีความใสและบางเป็นพิเศษ นอกจากนี้แผ่นฟิล์มกันรอยยังช่วยกรอง UV ที่มาจากหน้าจออีกด้วย จึงช่วยถนอมสายตาได้ในระดับหนึ่ง

และด้วยความคมชัดของหน้าจอและสีสันนี่แหละครับ ที่ผมว่าน่าจะตอบโจทย์สายซีรีส์ หรือเกมเมอร์ ที่ใช้งานสมาร์ทโฟนเพื่อความบันเทิงโดยเฉพาะ เพราะไม่ทำให้เสียอรรถรสอย่างแน่นอน แต่อาจจะต้องระวังการเกิดรอยนิ้วมือ คราบมัน คราบเหงื่อ ที่อาจเกิดขึ้นได้ง่าย จนทำให้เราต้องเช็ดหน้าจอบ่อย ๆ กันด้วยนะครับ

ฟิล์มกันรอยแบบด้าน เป็นฟิล์มกันรอยที่เมื่อแปะแล้วอาจจะไม่คมชัดเท่าฟิล์มแบบใส แต่ยังสามารถมองเห็นและใช้งานได้ตามปกติ โดยข้อดีคือยังช่วยป้องกันรอยนิ้วมือ และคราบมันบนเนื้อฟิล์มได้พอสมควร อีกทั้งยังลดแสงสะท้อนบนหน้าจอได้ดีใช้งานกลางแจ้งได้สะดวกมาก ซึ่งฟิล์มกันรอยแบบด้านมาพร้อมคุณสมบัติกันรอยขีดข่วนสูง และยังช่วยถนอมสายตา ทั้งนี้หากเราเลือกซื้อฟิล์มที่คุณภาพไม่ดี ก็อาจจะทำให้การแสดงผลบนหน้าจอมีสีที่ผิดเพี้ยนได้เช่นกัน

โดยฟิล์มด้านตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลายเลยครับ เช่น คนรักความสะอาด ไม่ชอบให้มีคราบมัน หรือคราบอื่น ๆ ที่มักจะติดอยู่บนฟิล์ม เหมือนเวลาใช้แบบใส หรือใครที่ต้องทำงาน ใช้สมาร์ทโฟนเกือบตลอดเวลา การใช้ฟิล์มด้าน ก็ช่วยลดแสงสะท้อนบนหน้าจอ และถนอมสายตาของคุณได้มากขึ้นด้วยนะครับ

ฟิล์มกันรอยแบบกระจก ความจริงแล้วฟิล์มกระจกสามารถแบ่งแยกย่อยออกเป็นหลายแบบ ดังนี้

  • ฟิล์มกระจก
    ผลิตจากเนื้อฟิล์มชนิดหนึ่งที่มีสารเคลือบพิเศษ ทำให้สามารถเห็นเงาบนแผ่นฟิล์ม โดยเมื่อหน้าจออยู่ในโหมด Stand by จะเห็นหน้าจอเหมือนกระจกเงาสะท้อนได้ เหมือนกระจกที่เราเอาไว้ส่องทั่ว ๆ ไปเลยครับ แต่เมื่อเราใช้งานหน้าจอ ก็จะสามารถมองเห็นหน้าจอและใช้งานได้ตามปกติ
  • ฟิล์มกระจกนิรภัย
    พูดถึงสิ่งนี้จะว่าเป็นฟิล์มก็ไม่ใช่ซะทีเดียวนะครับ เพราะมันคือกระจกนิรภัยสำหรับปกป้องหน้าจอ โดยจุดเด่นหลัก ๆ คือ ความแข็งแรงทนทานกว่าแบบฟิล์ม ช่วยลดการแตกร้าวของหน้าจอหากทำตกพื้น อีกทั้งยังป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี ลดรอยนิ้วมือ หรือคราบมันต่าง ๆ ได้ ซึ่งถึงแม้พื้นผิวจะค่อนข้างหนากว่าฟิล์มก็ไม่เป็นปัญหาเลยครับ เพราะเรายังสามารถสัมผัสหน้าจอและใช้งานได้ตามปกติแน่นอน

สำหรับใครที่รักษาของและขอปลอดภัยไว้ก่อน เพื่อสมาร์ทโฟนสุดที่รักนั้น การเลือกใช้เป็นฟิล์มกระจกก็ถือว่าแข็งแรง และช่วยป้องกันการกระแทกได้ไม่น้อย ซึ่งใครที่เป็นสายเที่ยว หรือสายลุย ที่อาจเสี่ยงทำมือถือตกกระแทก การติดฟิล์มกระจกก็ช่วยเซฟได้ดีเลยทีเดียว

ฟิล์มน้ำ หรือฟิล์มไฮโดรเจล (Hydrogel Film) คือ ฟิล์มกันรอยรูปแบบใหม่ ที่จุดเด่นคือบางเฉียบจนเหมือนกับไม่ได้ติด ทำให้เราสัมผัสความคมชัด และสีสันของหน้าจอได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมาพร้อมกับความแข็งแรง ทนทาน ที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับฟิล์มกระจกด้วยนะครับ โดยตัวฟิล์มน้ำสามารถรับแรงกระแทกได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งในท้องตลาดที่มีขายในปัจจุบันมีทั้งแบบใสและแบบด้าน ให้เลือกใช้งานอีกด้วย

จริง ๆ ต้องบอกเลยว่าฟิล์มน้ำ อาจจะเหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไปอยู่แล้ว แต่ด้วยความบางของฟิล์มชนิดนี้ เราสามารถมั่นใจได้เลยว่าไม่มีปัญหาฟิล์มขอบลอย หรือ ฟิล์มดันเคสโทรศัพท์ เลยครับ ใครที่กังวลเรื่องการใช้งานตรงนี้ก็สบายใจได้เลย

ฟิล์มกันรอยแบบป้องกันความเป็นส่วนตัว ปกติแล้วฟิล์มทุกชนิดจะสามารถมองเห็นหน้าจอได้จากทุกมุมตามปกติใช่ไหมครับ แต่สำหรับฟิล์มกันรอยชนิดนี้ จะสามารถมองเห็นหน้าจอสมาร์ทโฟนได้แค่มุมด้านหน้าเท่านั้น หากมองจากมุมข้าง หรือมุมอื่น ๆ จะมองเห็นเป็นแค่จอมืด ๆ นั่นเอง เพื่อป้องกันผู้อื่นแอบดูหน้าจอ

ใครที่หวงความเป็น Privacy ให้ความสำคัญเป็นส่วนตัวมาก ๆ ฟิล์มกันรอยชนิดนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้มากเลยครับ ยิ่งถ้าต้องใช้สมาร์ทโฟนท่ามกลางฝูงชนอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะบนรถสาธารณะ หรือสถานที่ต่าง ๆ ก็ค่อนข้างตอบโจทย์เลยทีเดียว 

เห็นคุณสมบัติของฟิล์มกันรอยชนิดต่าง ๆ รวมถึงข้อแนะนำกันไปแล้ว น่าจะพอเลือกกันได้แล้วนะครับว่าฟิล์มกันรอยแบบไหนที่มีฟังก์ชันเหมาะกับการใช้งานของเรา ยังไงอย่าลืมเลือกใช้ให้ตรงกับความชอบและไลฟ์สไตล์ของตัวเองกันด้วยนะครับ งานนี้จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนกันบ่อย ๆ แถมยังช่วยยืดอายุการใช้งานให้สมาร์ทโฟนของคุณได้อีกด้วยนะครับ