ธุรกิจค้าปลีกอยู่ในยุคที่ลูกค้าคาดหวังการบริการที่รวดเร็วและแม่นยำ การจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory Management) จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้น อีกหนึ่งความท้าทายของธุรกิจค้าปลีกในยุคที่ข้อมูลลูกค้า และการทำธุรกรรมมีความละเอียดอ่อนสูง การเก็บ และประมวลผลข้อมูลภายในประเทศตามมาตรฐาน PDPA ก็กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงเพื่อลดความเสี่ยงด้านกฎหมาย และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความสำคัญของเทคโนโลยีการจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory Management) ที่จะช่วยยกระดับธุรกิจการค้าของคุณให้ทันสมัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปัญหาที่ผู้ค้าปลีกไทยต้องเผชิญ

ธุรกิจค้าปลีกในไทยต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการที่ทำให้การจัดการสินค้าคงคลังเป็นเรื่องซับซ้อน และการจัดการกับการหมุนเวียนสินค้าที่รวดเร็วมาก โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคประจำวัน และสินค้าสด รวมถึงการรับสินค้าจากซัพพลายเออร์ท้องถิ่นหลากหลายรายที่ส่งตรงเข้าร้าน ซึ่งแต่ละรายมีรูปแบบการส่งมอบที่ต่างกัน

การใช้ระบบแบบดั้งเดิมที่จะประมวลผลข้อมูลจำนวนมากในครั้งเดียว โดยรวบรวมข้อมูลเป็นชุดหรือที่เรียกว่า Batch Processing ไม่สามารถอัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ ส่งผลให้เกิดปัญหาหลายประการ โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดคือ การที่ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ เมื่อต้องเตรียมจัดส่งกลับพบว่าสินค้าคงคลังไม่เพียงพอต่อการจัดส่ง เนื่องจากข้อมูลระหว่างระบบออนไลน์กับ สินค้าคงคลังจริงในร้านไม่ตรงกัน หรือการที่พนักงานต้องใช้เวลานานในการตรวจสอบสินค้าคงคลังเมื่อลูกค้าสอบถาม ซึ่งส่งผลให้การบริการช้าลงและอาจเสียโอกาสในการขายได้

ระบบการจัดการสินค้าคงคลังที่ดี และการใช้คลาวด์ที่ได้มาตรฐาน ช่วยยกระดับการทำงานให้ธุรกิจค้าปลีก

เทคโนโลยีคลาวด์สมัยใหม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างตรงจุด ระบบจัดการสินค้าคงคลังบนคลาวด์ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางหนึ่งเดียวของธุรกิจที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างร้าน คลังสินค้า และสำนักงานใหญ่ได้แบบเรียลไทม์ เมื่อมีการขายสินค้าหรือเพิ่มสินค้าในคลัง ข้อมูลจะอัปเดตทันทีทั้งระบบ โดยไม่ต้องรอการประมวลผลเพียงครั้งเดียวอีกต่อไป ซึ่งประโยชน์ที่เห็นได้ชัด จัดสรรสินค้าระหว่างสาขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผลลัพธ์ที่ได้เพิ่มขึ้นคือการเพิ่มยอดขาย ลดต้นทุน และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า

ระบบการจัดการสินค้าคงคลังบนคลาวด์ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาการดูข้อมูล แต่ยังช่วยปรับปรุงการทำงานในทุกส่วนของธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตั้งแต่การรับสินค้าเข้าร้าน การขายสินค้าผ่านหลายแพลตฟอร์ม ไปจนถึงการทำงานผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ประจำร้านไปจนถึงสมาร์ตโฟน

เพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการ

ด้วยความยืดหยุ่นของระบบคลาวด์จะช่วยให้ระบบจัดการคลังสินค้าสามารถรองรับการจัดการได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการรับสินค้าที่มีการแจ้งล่วงหน้า การส่งตรงจากผู้จำหน่ายไปยังร้าน หรือการรับทั้งแบบทีละชิ้น ทีละกล่อง หรือทีละชุด ความยืดหยุ่นนี้ช่วยให้จัดการกับซัพพลายเออร์ท้องถิ่นที่มีลักษณะแตกต่างกันได้ดีขึ้น โดยเฉพาะกับสินค้าสดและสินค้าที่มีโปรโมชันบ่อย ๆ ซึ่งต้องการความรวดเร็วในการจัดการข้อมูล

ระบบคลาวด์ยังช่วยให้กระบวนการเก็บข้อมูลสินค้าทำได้รวดเร็วและถูกต้องมากขึ้น ช่วยให้สินค้าพร้อมขายได้เร็วขึ้น และลดปัญหาการคลาดเคลื่อนของข้อมูลสินค้าใน คลังสินค้า ที่มักเกิดขึ้นจากการบันทึกข้อมูลด้วยมือ สำหรับงานหน้าร้าน พนักงานสามารถค้นหาข้อมูลสินค้า ซัพพลายเออร์ หรือตำแหน่งจัดเก็บได้ทันที การนับสินค้าคงคลัง ก็ทำได้ง่าย และเชื่อมต่อเข้าระบบบัญชีอัตโนมัติ ทำให้การจัดการคลังสินค้า ไม่ใช่ภาระงานที่หนักหนาอีกต่อไป รวมถึงมีระบบแจ้งเตือนให้เติมสินค้าจากหลังร้านขึ้นชั้นวางในเวลาที่เหมาะสม จึงช่วยลดสถานการณ์ “สินค้าไม่มีบนชั้น” ที่ทำให้เสียโอกาสในการขาย

รองรับการขายหลายช่องทางภายใต้ระบบเดียว

ธุรกิจค้าปลีกในปัจจุบันจำเป็นต้องรองรับการขายผ่านหลายช่องทาง ระบบที่ลูกค้าที่นิยมในไทย เช่น สั่งออนไลน์แล้วมารับที่ร้านสั่งออนไลน์แล้วส่งจากสาขาใกล้บ้าน หรือส่งจากสาขาหนึ่งไปยังอีกสาขาหนึ่งเพื่อให้ลูกค้ามารับ เป็นต้น

ซึ่งการใช้ระบบการจัดการคลังสินค้าจะมีขั้นตอนการทำงานที่ครบถ้วนสำหรับการจัดการคำสั่งซื้อ ตั้งแต่การสร้างรายการสินค้าที่ต้องจัดเตรียม การคัดเลือกสินค้า การบรรจุหีบห่อสินค้าไปจนถึงการจัดส่ง รวมถึงกลยุทธ์การแจ้งเตือนเพื่อให้สามารถบริหารการกักตุนสินค้าเข้าร้านได้ การจัดการคำสั่งซื้อแบบนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากสินค้าคงคลังทั้งเครือข่ายได้อย่างเต็มที่ ลดปัญหาสินค้าค้างในสาขาหนึ่งในขณะที่อีกสาขาขาดแคลน และช่วยให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น

ตอบโจทย์การทำงานผ่านอุปกรณ์ที่หลากหลาย

ข้อดีสำคัญของการใช้ระบบจัดการสินค้าคงคลังบนคลาวด์คือ การเข้าถึงข้อมูลและการทำงานได้จากทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ในสำนักงาน เครื่องคอมพิวเตอร์หน้าร้าน แท็บเล็ต หรือแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือ การที่สามารถเข้าถึงระบบได้จากหลายอุปกรณ์ทำให้การทำงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะการทำงานผ่านมือถือที่กลายเป็นจุดเด่นสำคัญ เพราะช่วยให้พนักงานสามารถทำงานเกี่ยวกับสินค้าคงคลังได้ทุกที่ในร้านโดยไม่ต้องจดใส่กระดาษแล้วไปป้อนข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ให้ยุ่งยาก แต่สามารถตรวจสอบข้อมูลและทำงานได้ทันทีตรงจุดที่ต้องการ เช่น ขณะที่เดินเช็กสินค้าบนชั้นวาง หรือขณะเติมของในคลังสินค้า

มั่นใจด้านความปลอดภัยด้วยระบบคลาวด์ที่ได้รับมาตรฐาน

ในด้านความปลอดภัย ระบบจัดการสินค้าคงคลังบนคลาวด์ที่ดีจะถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับมาตรฐานองค์กร รองรับการกำหนดสิทธิ์ตามบทบาท (RBAC) การยืนยันตัวตนแบบ Single Sign-On (SSO) หรือการเข้ารหัสข้อมูลทั้งระหว่างการส่งและการจัดเก็บ จึงช่วยให้ธุรกิจมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่สำคัญจะได้รับการปกป้องในทุกขั้นตอน ในด้านความปลอดภัยของข้อมูลนั้นยังมั่นใจได้ว่าข้อมูลอยู่ในประเทศ ปลอดภัยตาม PDPA การจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลลูกค้าในศูนย์ข้อมูลภายในประเทศไทย ช่วยให้ผู้ประกอบการมั่นใจได้ว่าจะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) ได้อย่างครบถ้วน จึงลดความเสี่ยงด้านกฎระเบียบและการถูกปรับ รวมถึงสร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจได้มากขึ้น

ออกแบบระบบให้ช่วยเสริมความต่อเนื่องของธุรกิจ

ผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้ระบบคลาวด์ให้เป็น Backup หรือ DR (Disaster Recovery) ได้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ศูนย์ข้อมูลหยุดชะงัก ทำให้ธุรกิจค้าปลีกสามารถดำเนินการได้ต่อเนื่องโดยไม่สะดุด

การประยุกต์ใช้คลาวด์ เพื่อยกระดับงานสินค้าคงคลัง หรือ Inventory Management บริบทสำคัญของธุรกิจค้าปลีกจะช่วยให้ธุรกิจค้าปลีกไทยบริหารงานได้ง่ายขึ้น เพราะสามารถ “เห็น ตัดสินใจ และปฏิบัติ” ด้วยข้อมูลสินค้าคงคลังเดียวกันแบบเรียลไทม์ จึงรองรับเวิร์กโฟลว์ได้ครบลูป ตั้งแต่รับสินค้า นับสินค้าคงเหลือ เติมสินค้า โอนย้าย และจัดส่ง ตอบโจทย์ Omni Channel และการทำงานผ่านสมาร์ตโฟนได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ การมี Business Continuity, Disaster Recovery และมาตรการความปลอดภัยระดับองค์กร ยังทำให้ธุรกิจมั่นใจได้ในความต่อเนื่องและการปกป้องข้อมูลสำคัญ

เพื่อให้ความสามารถเหล่านี้เกิดขึ้นจริงจำเป็นต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคงและทีมผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจทั้งเทคโนโลยีและธุรกิจค้าปลีกในประเทศ ด้วยบริการ AIS Cloud powered by Oracle Cloud Infrastructure โครงสร้างพื้นฐาน Hyperscale Cloud ระดับโลกแห่งแรกที่ดำเนินการโดยบริษัทไทย AIS Business จึงพร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่เชื่อถือได้ ในการยกระดับการจัดการสต็อกสู่ยุคดิจิทัล เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และก้าวสู่ความเป็นผู้นำของธุรกิจค้าปลีกไทยอย่างยั่งยืน

วันที่เผยแพร่ 16 กันยายน 2568

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

• Oracle Corporation, “Oracle Retail Store Inventory Operations Cloud Services Datasheet.”, From: oracle.com