เปิดประตูสู่ Smart Logistic ด้วยเทคโนโลยี 5G และ IoT

              อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ถือว่ากำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นดิจิทัลที่สมบูรณ์แบบ ในวันนี้องค์กรแถวหน้าในภาคอุตสาหกรรมนี้กำลังก้าวไปอีกขั้น โดยกำลังเดินหน้าเต็มกำลังไปสู่ผู้ประกอบการ Smart Logistic เพื่อให้ธุรกิจมีศักยภาพสูงขึ้น สร้างความได้เปรียบทิ้งห่างคู่แข่ง และเทคโนโลยีเบื้องหลังที่ถือเป็นกลไกสำคัญอันจะทำให้องค์กรภาคอุตสาหกรรมนี้เดินไปถึงเป้าหมายการเป็น Smart Logistic ได้สมบูรณ์แบบก็คือ เทคโนโลยี 5G และ IoT เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้การส่งและประมวลผลข้อมูลมีความสามารถมากขึ้น และการส่งผ่านข้อมูลยังปลอดภัยมากขึ้นด้วย ทำให้ภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์สามารถที่จะปรับปรุงการทำงานในด้านต่าง ๆ ได้ดีมากขึ้น 5G และ IoT จะเป็นกลไกที่นำภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไปสู่ Smart Logistic ได้อย่างไรมาติดตามกัน

รู้ทุกความเคลื่อนไหวติดตามได้อย่างมีประสิทธิภาพ

              การติดตามและตรวจสอบสถานะของการจัดส่งสินค้า ถือเป็นหัวใจหลักอย่างหนึ่งในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ จากการศึกษาของ Moor Insights & Strategy พบว่า 90% ของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์มองว่า อุปสรรคใหญ่ของอุตสาหกรรมในขณะนี้คือ ผู้ประกอบการไม่สามารถติดตามตำแหน่งของสินค้าและการขนส่งได้ตลอดเส้นทางของห่วงโซ่อุปทาน[1] ซึ่งผู้นำในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ทราบถึงปัญหานี้ดี จึงได้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยลดอุปสรรคปัญหา โดยที่ 5G และ IoT จะเข้ามามีบทบาทต่ออุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในเรื่องนี้เป็นอย่างมากทีเดียว

[1] CeMAT ASIA. “Three Ways 5G Will Benefit the Logistics Industry.”, From: https://www.cemat-asia.com/industrynews/shownews.php?lang=en&id=3763

              ในปัจจุบันผู้ประกอบการชั้นนำในภาคโลจิสติกส์ได้มีการนำอุปกรณ์ IoT ที่มีเซนเซอร์อัจฉริยะมาติดตั้งไว้ในส่วนต่าง ๆ ของงานขนส่ง ตั้งแต่ยานพาหนะที่จะทำการเคลื่อนย้ายขนส่งสินค้า ตู้เก็บสินค้า ไปจนกระทั่งถึงตัวสินค้าเลยก็มี เซนเซอร์ของอุปกรณ์ IoT เหล่านี้จะทำการเชื่อมต่อกันผ่านเครือข่าย 5G ซึ่งการนำเทคโนโลยีทั้ง 2 มาทำงานคู่กัน จะเกิดประโยชน์ต่อการดำเนินการของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ดังนี้

  • ติดตามสถานะสินค้าได้ตลอดเวลา การผสานการทำงาน 5G เข้ากับ IoT จะทำให้เกิดระบบติดตามตำแหน่งสินค้าและสถานะของการขนส่งได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้ประกอบการทราบถึงสถานะของสินค้าในทุกช่วงระยะของการขนส่ง
  • มีระบบแจ้งเตือนปัญหาและความเสี่ยง นอกจากจะติดตามสถานะสินค้าได้ตลอดเวลาแล้ว การจับคู่เทคโนโลยี 5G และ IoT เข้าหากัน ยังจะช่วยสร้างระบบแจ้งเตือนให้ผู้รับผิดชอบดูแลได้ทราบถึงอุปสรรคความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น แจ้งเตือนความล่าช้า ความเสียหาย หรือเตือนภัยการโจรกรรมสินค้า เป็นต้น ทำให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบสามารถที่จะบริหารจัดการและดูแลรักษาความปลอดภัยให้สินค้าที่ขนส่งได้ดีขึ้น
  • บริหารจัดการเส้นทางและวิธีการขนส่งได้ถูกต้อง เมื่อระบบมีการแจ้งเตือนหรือแจ้งข้อมูลการขนส่งให้ผู้ดูแลทราบแล้วว่า เส้นทางหรือวิธีการขนส่งสินค้านั้น ๆ มีอุปสรรคใดบ้าง ระบบก็จะมีการเสนอวิธีการปรับปรุงแก้ไขปัญหา ทำให้ผู้รับผิดชอบสามารถที่จะบริหารจัดการเส้นทางขนส่งได้อย่างถูกต้องแม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปูทางสู่ระบบขนส่งอัจฉริยะด้วยคู่หู 5G และ IoT

              5G และ IoT ไม่เพียงแต่จะเข้ามาช่วยผู้ประกอบการในภาคโลจิสติกส์ในการบริหารจัดการเส้นทางการขนส่ง ติดตามสถานะสินค้าระหว่างการขนส่ง หรือติดตามสถานะสินค้าคงคลังเท่านั้น แต่ในอีกด้านหนึ่ง องค์กรชั้นนำระดับโลกในภาคโลจิสติกส์กำลังมีเป้าหมายจะนำ 5G และ IoT มาช่วยพลิกโฉมทั้งอุตสาหกรรมให้กลายเป็น Smart Logistic อย่างแท้จริง สิ่งที่ท้าทายอย่างมากเลยก็คือ ระบบขนส่งอัจฉริยะ อย่างรถบรรทุกอัตโนมัติ (Autonomous Trucks) ซึ่งเป็นรถบรรทุกแบบไร้คนขับ จากการทดสอบก็พบว่า 5G ที่มีความหน่วงต่ำเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้แนวคิดรถบรรทุกแบบไร้คนขับนั้นมีความเป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ดีเพื่อความปลอดภัย รถบรรทุกอัตโนมัติก็ยังจะต้องพัฒนากันอีกมากหากจะนำมาใช้จริงในระบบขนส่ง แม้ว่าระบบขนส่งอัจฉริยะเช่นนี้ยังเป็นเรื่องของอนาคต แต่แนวคิดนี้ก็ได้รับความสนใจไม่น้อยจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม และสิ่งนี้สะท้อนว่า 5G และ IoT เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยปูทางสู่ Smart Logistic ในอนาคตได้

              เรายังไม่สามารถคาดเดาได้ว่า ระบบขนส่งอัจฉริยะเต็มรูปแบบนั้นจะสามารถเกิดขึ้นจริงในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ได้เมื่อไหร่ เพราะแม้เทคโนโลยีจะมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังต้องฝ่าด่านกฎเกณฑ์ด้านความปลอดภัย ซึ่งแต่ละประเทศก็จะวางกฎเกณฑ์ในเรื่องนี้เข้มงวดแตกต่างกันไป จึงเป็นสิ่งที่จะต้องใช้เวลาพิสูจน์กันอีกสักระยะ อย่างไรก็ดี ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า 5G และ IoT ก็ได้เข้ามามีบทบาทในการเสริมศักยภาพระบบขนส่งให้กับภาคโลจิสติกส์ในปัจจุบันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงจะยังไม่ใช่การขนส่งแบบอัตโนมัติร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ผู้ประกอบการก็นำ 5G และ IoT มาใช้ควบคู่กันเพื่อสร้างระบบอัตโนมัติในการติดตามรายงานสถานะต่าง ๆ ของรถบรรทุกขนส่ง อย่างการติดตามตำแหน่งเส้นทางที่รถวิ่ง ติดตามน้ำหนักที่บรรทุก ติดตามการใช้ความเร็วของรถ รวมไปถึงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงของรถ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้ประกอบการภาคโลจิสติกส์สามารถบริหารจัดการทรัพยากรต่าง ๆ ของธุรกิจ ทั้งต้นทุนเรื่องเวลา แรงงาน เชื้อเพลิง ความเสียหายของสินค้าได้ลงตัวมากขึ้น และถือว่าได้ว่ากำลังเข้าใกล้ความเป็น Smart Logistic ในทุกที

              จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี 5G และ IoT กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ให้ก้าวไปสู่อีกขั้น โดยเทคโนโลยีดังกล่าวนี้จะเข้ามายกระดับการเชื่อมต่อข้อมูล เพิ่มประสิทธิภาพการติดตาม ตรวจสอบ และการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งระบบห่วงโซ่อุปทาน เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถช่วยให้อุตสาหกรรมภาคโลจิสติกส์ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน การบริการลูกค้า และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จึงเป็นคู่เทคโนโลยีที่ต้องจับตามองอย่างยิ่ง ทั้งนี้ AIS Business ในฐานะดิจิทัลพาร์ทเนอร์ของผู้ประกอบการไทย ก็พร้อมอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการภาคโลจิสติกส์ให้ก้าวไปสู่ความเป็นอัจฉริยะด้วยพลังของ AIS 5G ที่เร็ว แรง และมีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ และยังพร้อมสนับสนุนภาคธุรกิจไทยด้วย Solution เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า ทั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและแพลตฟอร์มเพื่อธุรกิจจากพาร์ทเนอร์ระดับโลก เพื่อให้ภาคโลจิสติกส์ไทยเดินหน้าสู่ประสิทธิภาพใหม่ของความเป็น Smart Logistic ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

วันที่เผยแพร่ 9 สิงหาคม 2566

Reference

  1. CeMAT ASIA. “Three Ways 5G Will Benefit the Logistics Industry.”, From: https://www.cemat-asia.com/industrynews/shownews.php?lang=en&id=3763
  2. DHL. “5G And What It Means for Logistics.”, From: https://www.dhl.com/discover/en-au/logistics-advice/logistics-insights/5g-and-logistics
  3. Zerone Consulting. “5G and IoT: Supercharging the Gateway to Smart Logistics.”, From: https://www.zerone-consulting.com/5g-and-iot-supercharging-the-gateway-to-smart-logistics/

AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : [email protected]
Website : https://www.ais.th/business

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อแนะนำโซลูชันที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ 

สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก AIS Business เพื่อให้คำปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล 
สำหรับรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ทันที