ในยุคที่โลกธุรกิจเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง และวิกฤติที่ถาโถมไม่หยุดหย่อน การบริหาร "คน" กลายเป็นหัวใจสำคัญที่สุดที่จะกำหนดว่าองค์กรจะอยู่รอดหรือล้มหายไป การปรับตัวไม่ได้เป็นเพียงทางเลือก แต่เป็นหนทางรอด ทั้งขององค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ รวมไปถึงในกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs
นี่คือบทสรุปแนวคิดการบริหารคนให้แกร่งในยุคแห่งความท้าทาย จาก “คุณเจี๊ยบ-กานติมา เลอเลิศยุติธรรม” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ที่ผ่านการ Transform ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์องค์กร ซึ่งมาแชร์ประสบการณ์ภายในโครงการ “Transformative Infinite SMEs”
อย่าวิ่งตามเทรนด์ แต่จงรู้จักตัวเอง
ปัญหาแรกที่ทำให้หลายองค์กรเกิดปัญหา และไม่สามารถไปต่อได้ คือการตามเทรนด์จากโลกตะวันตกโดยลืมบริบทและพื้นฐานขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นการนำเครื่องมืออย่าง OKRs มาใช้ หรือยกเลิกการประเมินผลแบบ Bell Curve สิ่งที่สำคัญกว่าคือการกลับมาสู่คำถามพื้นฐานที่สุด คือ "เรารู้จักตัวเองดีแค่ไหน?"
"เราชอบไปเสพภาพที่มันออกมาสวยแล้ว
ทั้งที่จริงๆ กว่าที่มันจะไปสวยได้มันมีการเปลี่ยนแปลง เราฟังแค่เรื่องที่เราพอใจ
เหมือนเป็นการรับคำหรือความหรูหรามาใช้ โดยที่แก่นของการปฏิบัติยังไม่เกิดขึ้นจริง"
หลักการนี้ใช้ได้กับทั้งตัวบุคคลและองค์กร ก่อนจะก้าวไปข้างหน้า ต้องเข้าใจก่อนว่า "ปัจจุบันเราอยู่ตรงไหน? และเราเก่งเรื่องอะไร?" การรู้จักตัวเองอย่างถ่องแท้คือจุดสตาร์ทที่มั่นคงที่สุดในการรับมือทุกการเปลี่ยนแปลง
นิยามของ HR "คนสร้างถนน" ไม่ใช่เจ้าแม่กฎระเบียบ
HR ไม่ใช่แผนกธุรการที่คอยเช็กเวลาเข้า-ออกงาน หรือทำเงินเดือน แต่คือ "สถาปนิกผู้สร้างถนน" ที่จะนำพาความเจริญไปสู่องค์กร หากไม่มีถนนที่ดี ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ก็เข้าไม่ถึง หากไม่มีระบบบริหารจัดการคนที่ดี องค์กรก็เติบโตไม่ได้
"เรื่องของคนคือเรื่องการไปสร้างทาง ถ้าเราบอกว่าจังหวัดไหนจะเจริญต้องมีถนนตัดไปถึง หน้าที่ของการทำเรื่องคนคือการตัดถนนให้ไปถึง แล้วความเจริญถึงจะมา"
สำหรับธุรกิจ SMEs ที่อาจไม่มีฝ่าย HR โดยเฉพาะ คุณเจี๊ยบ มองว่า ถ้าจะมี HR เพียงแค่ทำหน้าที่พื้นฐาน ไม่มีเสียดีกว่า เพราะเป็นต้นทุนที่สิ้นเปลือง ควร Outsource งานที่เป็น Routine อย่างการทำเงินเดือน และไปลงทุนกับ "เพื่อนคู่คิด" ที่เข้าใจธุรกิจ มาเป็นพาร์ทเนอร์จะดีกว่าการตั้งทีม HR ที่ไม่เข้าใจทิศทางขององค์กร
เลิกเป็นองค์กรแบบ "ครอบครัว" และใช้ Data นำการตัดสินใจ
หนึ่งในแนวคิดหลักของคุณกานติมา ในการดูแลองค์กรที่มีพนักงานกว่า 30,000 คน คือการทลายมายาคติว่า "บริษัทคือครอบครัว" ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงองค์กรธุรกิจที่ต้องการความเป็นมืออาชีพ
"ไม่ต้องมาสร้างครอบครัว เพราะว่าเราต้องการให้มืออาชีพมาอยู่รวมกัน ทำงานด้วยกัน บรรลุเป้าหมายขององค์กร แล้วกลับไปใช้ความสัมพันธ์ชีวิตส่วนตัวที่บ้าน เพราะเมื่อไหร่ที่เริ่มมีความสัมพันธ์เกินความเป็นมืออาชีพ จะใช้ความเป็นพี่น้องมาจัดการไม่ได้”
การมององค์กรเป็นทีมของ "มืออาชีพ" ทำให้การตัดสินใจที่ยากลำบากเพื่อส่วนรวมเป็นไปได้จริง โดยไม่ติดกับดักของความสัมพันธ์ส่วนตัว เพราะผู้นำต้องแบกรับปากท้องของพนักงานและครอบครัวอีกหลายชีวิต การให้โอกาสคนเพียงเพราะความสนิทสนม อาจทำให้คนอีกมหาศาลต้องเดือดร้อน และเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการสื่อสารกับคนที่ไม่เห็นด้วย คือ "ข้อมูล (Data)"
"เวลาจะคุยกับคน เราสามารถดึง data ทั้งหมดมาประมวล แล้วเอา fact มาใช้ในการพูดคุย เมื่อใดก็ตามที่เป็น data ที่เป็นวิทยาศาสตร์ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาทะเลาะกัน"
สุดท้ายนี้ สิ่งที่ผู้นำทุกคน โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจ SME หรือทายาทธุรกิจที่กำลังจะเข้ามาบริหาร ต้องตระหนักอยู่เสมอคือ "อย่ายึดตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก"
"ในโลกนี้ยังมีอะไรรอบตัวเราอีกเยอะที่เราไม่รู้ เพราะฉะนั้นการมีทีมที่แข็งแรง และทำให้ทีมอยู่ในสถานการณ์ที่พูดคุยกันได้ บอกกันได้ จะทำให้องค์กรเคลื่อนไปข้างหน้าได้"
การบริหารคนในยุควิกฤติจึงไม่ใช่การค้นหาสูตรสำเร็จ แต่คือการเดินทางที่เริ่มต้นจากการ "รู้จักตัวเอง" สร้างทีมจาก "ความเป็นมืออาชีพ" สื่อสารด้วย "ความจริงและข้อมูล" และใช้ "ความเปิดกว้าง" พร้อมจะรับฟังและเรียนรู้จากคนรอบข้าง เพราะนั่นคือหนทางสู่การเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนอย่างแท้จริง
ผู้ประกอบการที่ต้องการยกระดับศักยภาพธุรกิจ สามารถติดตามเนื้อหาที่น่าสนใจจาก AIS Infinite SMEs ได้ที่ https://www.ais.th/infinite-smes
© 2025 Advanced Info Service PLC. All rights reserved.