ล่าแสงเหนือที่ 𝙏𝙧𝙤𝙢𝙨𝙤 เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ กับ AIS SIM2Fly

เพื่อน ๆ หลายคนคงอยากไปเห็นเเสงเหนือกันสักครั้ง ว่าเป็นอย่างไร จะสวยขนาดไหน สมคำเล่าลือหรือป่าว ส่วนตัวเเล้วผมเคยได้ยินมาว่า หากอยากเจอออโรร่าแบบเต็มท้องฟ้ายามดึก ๆ ก็ต้องอดนอนกันสักหน่อย และเพื่อน ๆ คนไหนที่เตรียมตัวจะเดินทางไป ผมว่าควรพกซิมที่มีเน็ตแรง อย่าง AIS SIM2Fly ที่ช่วยอัปโหลดภาพสวย ๆ ขึ้นอวดคนในโซเชียล กันแบบเรียลไทม์ และคร่าวนี้ผมได้นำขั้นตอนและบรรยากาศการตามล่าเเสงเหนือที่นอร์์เวย์ จากเพจ ChillJouney มาฝาก...

การตามล่าเเสงเหนือ จากเพจ ChillJouney:

มาแล้ว! รีวิวการไปล่าแสงที่ 𝙏𝙧𝙤𝙢𝙨𝙤 เมืองหลวงแห่งการล่าแสงเหนือของประเทศนอร์เวย์

หลังจากกลับมาได้ 2 อาทิตย์เปิดประเดิมด้วยรีวิวเมืองนี้ก่อนเลย เป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลง วิวว้าวตั้งแต่อยู่บนเครื่องบิน ใจเต้นรัวมาก! เมื่อได้เห็นภูเขาหิมะอันยิ่งใหญ่ เมืองน่ารักเหมือนอยู่ในเทพนิยายสักเรื่อง และที่พีกสุดคือได้เจอ “แสงเหนือ” แบบเต็มตา!

และจะบอกว่าที่นี่เป็นหนึ่งในเมืองที่ “ล่าแสงเหนือ” ได้ง่ายที่สุด เพราะตัวเมืองตั้งอยู่เหนือเส้น Arctic Circle เพียง 350 กม. เท่านั้นเอง ใครที่มีความฝันอยากเห็นแสงเหนือ บอกเลยว่าพลาดที่นี่ไม่ได้แล้ว ส่วนใครที่เคยไปล่าแล้วไม่เจอ ครั้งหน้าลองมาที่ Tromso ดูสิ!

และที่อยากแนะนำเลยคือเรื่องอินเทอร์เน็ตที่ชิวใช้อัปรูปลงแบบเรียลไทม์ ทริปนี้เราใช้ AIS SIM2Fly สัญญาณดีมาก ๆ นี่ใช้จริงรีวิวจริงแบบไม่อวย ใช้เน็ตได้ 6GB 15 วัน แถมยังมีเน็ตในไทยให้ฟรี 500MB ด้วย ขับรถไปไหนมาไหนเปิด Google Map ได้จะหาร้านอะไรก็คือลื่นมาก คือ AIS Roaming ที่นอร์เวย์สัญญาณดีและครอบคลุมตลอดเส้นทางจริง ๆ

และส่วนรายละเอียดเรื่องช่วงเวลาในการไปที่แนะนำ อยู่ในโพสต์แล้ว เข้าไปดูบรรยากาศและความสวยงามของที่นี่ได้เลย ดูรายละเอียดได้ที่นี่เลย: https://m.ais.co.th/yGHmD12TE

บรรยากาศของเมืองที่ปกคลุมด้วยหิมะ ไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อย ๆ นะ

เด็ดสุดในทริปก็คงเป็นเจ้านี่ รอบนี้ไม่อาย ออกมาให้เราเห็นกันชัดมาก

สัญญาณ อินเทอร์เน็ตใช้ของอะไรดี

ทริปนี้เราใช้ AIS SIM2Fly สัญญาณดีมากๆ ขับรถไปไหนมาไหนเปิด Google Map ได้แบบไร้ความกังวลไปเลย นี่รีวิวจริงแบบไม่อวย คือ AIS Roaming ที่นอร์เวย์สัญญาณดีและครอบคลุมตลอดเส้นทางจริง ๆ

ใช้เน็ตได้ 6GB 15 วัน แถมยังมีเน็ตในไทยให้ฟรี 500MB ด้วย นอกจากนอร์เวย์แล้วยังครอบคลุมกว่า 120 ประเทศทั่วโลก เห็นว่าล่าสุดกำลังจะเปิดบริการ 5G ในต่างประเทศด้วยนะ

และพิเศษสุด ๆ สำหรับสายเดินทางแบบเราก็คือเขามี privilege ที่สามารถซื้อประกันเดินทางของ Thaivivat ได้ในราคาพิเศษ เริ่มต้นแค่ 90 บาทเอง ใครกำลังจะไปต่างประเทศแล้วกำลังคิดเรื่องอินเทอร์เน็ตอยู่ ชิวแนะนำเจ้านี่เลย

ไปช่วงไหนดี ? ที่นี่เป็นเมืองที่เที่ยวได้ทั้งปีเลย

ถ้าอยากล่าแสงเหนือก็ต้องไปช่วงหน้าหนาว (ตั้งแต่เดือน ตุลา-มีนา) จะเป็นช่วงที่กลางคืนมืดนาน

แต่ถ้าแนะนำสุด ๆ ไม่หนาวไปไม่มืดนานไปก็ควรเป็นเดือน มีนาคม หรือ ตุลาคม ไปเลยครับ (สงกรานต์พอได้นะแต่โอกาสเห็นแสงเหนือน้อยลงหน่อย เพราะมืดแค่ 4-5 ชั่วโมง)

เริ่ม! โดยเราจะอยู่เที่ยวที่เมืองนี้ 2 วัน 1 คืนถ้วนครับ แต่ขอบอกว่าจัดเต็ม กลางวันยาวนาน 14-15 ชั่วโมง เที่ยวยาวไปแบบสุดคุ้ม โดยก่อนไปพวกเราก็แค่จัดแพลนหลวม ๆ สลับกันได้หมดเพราะใช้การขับรถเที่ยวอยู่แล้ว เพื่อน ๆ ลองเอาไปปรับดูนะสรุปแผนออกมาได้ตามนี้

การเดินทาง

บินไปลงที่เมือง Tromso เลยครับ โดยของชิวบินไปลงที่เมือง Oslo ก่อน เราไปแวะเที่ยว Oslo 1 วัน แล้วเช้าอีกวันก็ต่อเครื่องบินไปลงสนามบิน Tromsø Airport ( มีหลายสายการบิน แต่ส่วนมากจะบินช่วงเช้า ) พอถึงสนามบินก็เช่ารถขับเที่ยวเอาครับ สะดวกสุด และในเรื่องค่าใช้จ่ายน่าจะดีสุดด้วย ในเมืองจอดรถไว้ที่โรงแรม เดินเที่ยวได้เลย เมืองเล็ก ๆ จุดสำคัญเดินหากินได้หมด

DAY 1 : Tromso Airport – ขับรถเล่นเที่ยวเกาะด้านบน – ตัวเมือง – แสงเหนือ

ระหว่างที่ผมกำลังงีบหลับไปในเครื่องบินไฟล์ทจาก Oslo > Tromso สายตาที่ยังสะลึมสะลือผมกก็มองออกไปที่หน้าต่าง โอ้โห นี่สินะสิ่งที่เรารอคอย ภาพภูเขาหิมะยิ่งใหญ่ทอดยาวไปในทะเล มันสวยซะจนทำให้ใจผมเต้นแรงแบบที่ไม่เคยได้สัมผัสมานาน 2 ปี ที่ไม่ได้เห็นวิวต่างประเทศที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้!

เอาล่ะพอถึงสนามบินเราก็เริ่มรับรถเช่า ตามที่ได้จองล่วงหน้ามา โดยแผนวันนี้คือขับรถเที่ยวแบบไร้แผนก่อนเลย อยากเจอหิมะเต็มแก่แล้วจ้า เปิด Google Map จิ้มไปเกาะด้านบนเมือง Tromso พื้นที่ที่ก็ยังไม่รู้ว่ามีอะไร... อะขับไปก่อน บอกเลยว่าวิวปังมากปังตลอดทางงงง ปังตั้งแต่ขับออกจากสนามบินก็คือว้าวตลอ

อะเราให้ดูบรรยากาศสองข้างทาง และ ที่ไปขับรถเล่นกันมาด้านบน ขออภัยที่ไม่ได้จดพิกัดมานะครับ ขับไปทางเส้น 863 แล้วเข้าเส้น FV58 ต่อ พอดีดูในแผนที่แล้วน่าจะเจอทะเลสาบ เลยขับรถยาวกันไปจ้า ถนนแคบหน่อย จะมีจุดให้พอจอดถ่ายรูปได้บ้าง

ขับรถเที่ยวจนอิ่มแล้วก็ขับรถกลับไปเช็คอินที่โรงแรมกันครับ เราเลือกพักกันที่โรงแรมติดน้ำเลย ราคาสูงนิดหนึ่งแต่ก็สู้! เพราะวิวดีมากกกกกก บนดาดฟ้าจะมีอ่างจากุชชี่ outdoor แช่น้ำอุ่นชมวิวอ่าวสุดปัง ( แต่วันที่ไปปิดปรับปรุง น้ำตาไหลแป้ป .. ได้แค่ถ่ายรูป ) แต่วิวเค้าดีจริง แค่เดินออกมาหน้าโรงแรมก็ปังแล้ว

พอพักผ่อนแล้วเราก็เดินเที่ยวเมือง Tromso กันครับ นี่ออกเที่ยวกันตอนทุ่มหนึ่งละ ยังไม่มืดเลย เมืองมีความสลั่ว ๆ หน่อย ฟีลล์ได้มากกก

โปรแกรมอันยาวนานของเรายังไม่จบบบบ เที่ยวมาทั้งวันแล้วยังไปต่อด้วยภารกิจ "ล่าแสงเหนือ" วันนี้โชคเป็นของเรา พยากรณ์บอกว่าคืนนี้มีแสงเหนือแรงถึง KP4 ( คะแนนเต็ม 9 ) ซึ่งบอกก่อนนะว่าปกติอะครับถ้า KP4 ของพื้นที่อื่นอาจจะไม่ได้มองเห็นแสงเหนือแรง แต่สำหรับที่เมือง Tromso ที่อยู่บนมาก ๆ (ใกล้ขั้วโลก) แค่ระดับ 2 ก็มองเห็นแล้ว ดังนั้น 4 ไม่ต้องพูดถึง! ระดับอลังการเลย ตอนสัก 4 ทุ่มเราก็ขับรถออกไปล่ากัน

โดยเราดูข้อมูล "เมฆ" ใน app ชื่อ windy ครับ บอกเราว่าตอน 5 ทุ่มตรงพิกัดที่ชื่อว่า "Aurora View Point" ฟ้าจะเคลียร์พอที่เราจะมีโอกาสเห็นแสงเหนือ ชิวให้พิกัดไปเลยนะ https://goo.gl/maps/ypkbc78mMKQgRxDt8  ตามนี้จ้า ( ขอบอกก่อนว่า การจะเห็นแสงเหนือ มันคล้ายการดูดาว/ทางช้างเผือก เลยครับ คือวันนั้นฟ้าต้องมืด/ต้องไม่มีเมฆเยอะ/แสงแรงพอ ) ถ้าครบทั้ง 3 องค์ประกอบ ก็จะได้ภาพแบบนี้!

ลองนึกภาพความมหัศจรรย์ของแสงเหนือ มันคือการที่ฟ้ามืดอยู่ดี ๆ ก็มีแสงสีค่อย ๆ วาดขึ้นมาเหมือนมีศิลปินเอาพู่กันมาระบายสีเลยครับ ถ้าโชคดีได้เจอแสงแรง KP4 ขึ้นไปก็จะเต้นระบำให้เราดู เต็มท้องฟ้า บอกเลยว่าตอนออกไปล่าหนาวมากกกกกกกกก แต่พอเราได้เห็นก็ลืมหนาวไปเลย มันดีมากกก

DAY 2 : เดินเที่ยวริมน้ำ – ขึ้นกระเช้า - Arctic Cathedral

เมื่อคืนจัดหนักกว่าจะได้นอนก็ตี 1 ตี 2 โน้นอะฮะ วันนี้เราตื่นกันสาย ๆ หน่อย ออกมาเดินเที่ยวหน้าโรงแรม วันนี้ฟ้าเคลียร์ขึ้นสวยกว่าเดิมอีก สวยมากกกกก

ซูม ซูม มองย้อนกลับไปเมือง Tromso สวยมากกก

"Tromsø Cable Car" ขอบอกเลยว่าคุ้มมาก สวยมาก สวยแบบบ้าแล้ว บ้ามากกกกกกก สวยแบบอยากเก็บความสุขตอนนี้ใส่ขวดไว้เลย

Credits by ChillJouney Page : เพจเที่ยวกับชิว
#ChillJourney #Norway #Tromso #ล่าแสงเหนือ #Aurora #AISSIM2Fly