7 วิธีแก้ไขปัญหา “ยอดขายตกจนไม่อยากไปต่อ”

 เศรษฐกิจที่ตกต่ำจากความผันผวนของสถานการณ์ต่าง ๆ ของโลก ทั้งสถานการณ์โรคระบาด การเกิดสงคราม ปัญหาสิ่งแวดล้อมถูกทำลาย จนส่งกระทบต่อทุกธุรกิจ ยอดขายที่เคยพุ่งพรวดพราดอย่างไม่นึกไม่ฝัน กลับตกลงพรวดพราดอย่างไม่คาดฝันเช่นกัน จนหลาย ๆ ธุรกิจตัดสินใจปิดตัว ไม่อยากไปต่อ แต่สิ่งนี้ต้องไม่เกิดขึ้นกับคุณ เพราะวันนี้เรามี 7 วิธีแก้ไขปัญหายอดขายตก มาช่วยแก้ปัญหาได้อย่างทันเวลา ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันเลย

1. ไม่ตื่นตูม และตั้งสติ

 ข้อแรกนี้สำคัญมาก ยิ่งสำหรับนักธุรกิจมือใหม่ป้ายแดง การเผชิญกับปัญหายอดขายตกตั้งแต่ไตรมาสแรก ไม่ใช่เรื่องที่จะรับมือได้ง่าย ๆ แต่จำเป็นต้องทำ และให้ความรู้สึกตระหนก ตกใจ และตื่นตูม เกิดขึ้นแบบเสียเวลากับความรู้สึกเหล่านี้น้อยที่สุด และหันมาตั้งสติ เพื่อให้พร้อมเริ่มต้นทำ 6 วิธีที่เหลือ

2. หาสาเหตุของปัญหา

 เมื่อตั้งสติได้แล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือหาสาเหตุของปัญหายอดขายตกให้พบ ซึ่งในโลกธุรกิจไม่ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ธุรกิจที่เปลี่ยนไป คู่แข่งทางการตลาดที่เพิ่มมากขึ้นในชั่วข้ามคืน สินค้าถูกลอกเลียนแบบ หรือการตลาดที่ใช้ตกเทรนด์ไปแล้ว ปัญหาเหล่านี้คุณในฐานะเจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องวางแผนจัดการอย่างเป็นระบบ เริ่มสำรวจหาต้นตอของปัญหาในทุกกระบวนการ ทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก โดยที่ต้องไม่ลืมสำรวจข้อบกพร่องหรือความผิดพลาดที่เกิดจากสินค้า กลยุทธ์ หรือการบริหารจัดการของตนเองก่อนเป็นอันดับแรก เปิดใจมองปัญหาและก้าวสู่วิธีต่อไปคือการวิเคราะห์และลงมือแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงประเด็น

3. วิเคราะห์ปัญหา และแก้ไขอย่างตรงประเด็น

 เมื่อทราบสาเหตุของปัญหายอดขายตกแล้ว มาถึงขึ้นตอนสำคัญที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างเห็นผล คือการวิเคราะห์หาทางแก้ไขปัญหาอย่างตรงประเด็น เพื่อไม่ให้ใช้เวลาแก้มากเกินจนคู่แข่งล้ำหน้าไปไกล ยิ่งในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในชั่วข้ามคืน ผู้ที่ลงมือเร็วกว่าย่อมเป็นผู้ที่ได้เปรียบทางธุรกิจ และจะสามารถกลับมายืนหยัด มียอดขายที่ปังอีกครั้ง

4. จัดแคมเปญหรือโปรโมชั่นพิเศษ

 กลยุทธ์การตลาดการส่งเสริมการขายด้วยการจัดแคมเปญ หรือจัดโปรโมชั่นพิเศษ จะช่วยเรียกความสนใจจากผู้บริโภคได้มากพอสมควร คุณอาจต้องทำการบ้านหนักหน่อย เพิ่มเทรนด์ที่กำลังเป็นที่สนใจ หรือใช้อินฟลูเอนเซอร์คนดังที่มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียลมาช่วยโปรโมท หรือทำการตลาด ก็จะสามารถดึงลูกค้าทั้งเก่าและใหม่กลับมาได้ นำมาซึ่งยอดขายที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ดีไม่ดียอดขายอาจกลับมาอย่างถล่มทลายได้ในชั่วข้ามคืน

5. เพิ่มช่องทางการขาย เปิดตลาดกลุ่มใหม่

หลังจากทำการตลาดเพิ่มยอดขายกันไปแล้ว ต้องไม่ลืมเพิ่มช่องทางการขายที่หลากหลาย ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้สามารถรองรับกลุ่มลูกค้าทั้งกลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ที่จะเข้ามาจากทุก ๆ ด้าน เพราะยิ่งลูกค้ารู้จักแบรนด์หรือสินค้ามากขึ้นเท่าไหร่ โอกาสที่ยอดขายจะเพิ่มขึ้นก็ยิ่งเป็นไปได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น โดยช่องทางการขายที่นิยมในปัจจุบันมีมากมายหลากหลาย อาทิ Facebook, Instagram, TikTok, Line Shopping, E-Marketplace ต่าง ๆ อย่าง Shopee หรือ Lazada รวมถึงขายผ่านเว็บไซต์ของแบรนด์เอง วิธีนี้จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ไม่น้อยเลยทีเดียว

6. ถ่ายเทสินค้าเก่าออก ด้วยกลยุทธ์ของแถมและขายเป็นแพ็กเกจ

 หลังจากสินค้าใหม่กลับมาขายได้และยอดขายเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ อย่าลืมดันสินค้าที่ค้างอยู่ในสต๊อก เพื่อไม่ให้สินค้าถูกทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสนำมาทำการตลาดลด แลก แจก แถม หรือขายแบบปริมาณมาก ๆ เป็นแพ็กเกจหลาย ๆ ชิ้นในราคาที่ถูกกว่า วิธีนี้จะช่วยกระจายสินค้าค้างสต๊อกไปได้อย่างรวดเร็ว แถมสร้างยอดขายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

7. ฟังเสียงลูกค้าให้มากขึ้น

 สุดท้ายเมื่อยอดขายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ต้องไม่นิ่งนอนใจ เพราะปัญหายอดขายตกจนอาจย้อนกลับมาหาคุณได้ทุกเมื่อ ซึ่งสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณห่างไกลปัญหานี้ไป คือ ต้องฟังเสียงลูกค้าให้มาก ซึ่งเสียงในที่นี้หมายถึงเสียงตอบรับ ทั้งความพึงพอใจและไม่พึงพอใจ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงพัฒนาแบรนด์ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงประเด็น และทันต่อเหตุการณ์

 เมื่อทำครบทั้ง 7 วิธีนี้ รับรองได้เลยว่ายอดขายที่เคยตกจนไม่อยากทำธุรกิจต่อ จะกลับมาปัง ดังเหมือนเดิม หรือดังกว่าเดิมได้อย่างแน่นอน เพราะทุกวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อะไร ๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดฝันและไม่ทันได้ตั้งตัว การมีสติและลุกขึ้นสู้คือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจที่ว่าที่เศรษฐีอายุน้อยร้อยล้านอย่างคุณต้องมีเป็นคุณสมบัติติดตัว จึงจะสามารถคว้าความสำเร็จมาครองได้

สำหรับท่านใดที่ต้องการทำการตลาดบนออนไลน์ผ่าน Online Media โดยผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ เรามีทีมที่ปรึกษาและซื้อสื่อออนไลน์ที่มีความชำนาญจาก บริษัท เอดีเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) ด้วย Social Amaze Package ที่ผู้ลงโฆษณาสามารถเลือกสื่อตามต้องการได้อย่างลงตัว เพื่อให้เหมาะกับรูปแบบธุรกิจ โดยทีมงานจะทำการวางแผนการลงสื่อให้กับผู้ลงโฆษณาตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุณต้อง Amaze เพิ่มเติม SME Social Amaze

วันที่เผยแพร่ 30 สิงหาคม 2565

AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : [email protected]
Website : https://www.ais.th/business