ก้าวสู่ธุรกิจขนส่งแห่งอนาคตในแบบ Smart Transportation & Smart Logistics ด้วย 5G, AI และ IoT ไปกับ AIS Business

              การขนส่งและโลจิสติกส์นั้นถือเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจองค์กรและอุตสาหกรรมโรงงานและการผลิตสามารถดำเนินธุรกิจและเติบโตได้อย่างมั่นคง อีกทั้งยังสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินการเพื่อเพิ่มความเร็วในการทำงานและลดค่าใช้จ่ายได้อย่างชัดเจน ส่งผลให้ภาคขนส่งและโลจิสติกส์นั้นกลายเป็นส่วนแรกๆ ในหลายธุรกิจที่มีเป้าหมายในการทำ Digital Transformation ที่มีผลลัพธ์เด่นชัด

              AIS Business ในฐานะของ Digital Enabler สำหรับธุรกิจองค์กรไทย จึงได้ร่วมมือกับหลายภาคส่วนในการพัฒนาโซลูชันด้าน Smart Transportation และ Smart Logistics บนเทคโนโลยีโครงข่าย 5G เพื่อให้ธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์ในการทำ Digital Transformation สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้อย่างง่ายดายและคุ้มค่า ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย เสริมวิสัยทัศน์ Smart Supply Chain ต่อยอดจากเดิมที่มีโซลูชัน Smart Manufacturing ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น

              ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปสัมผัสถึงความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในกระบวนการขนส่งคมนาคมของภาคธุรกิจองค์กร ที่ได้ผสานนำเทคโนโลยีนวัตกรรมแห่งอนาคตมาช่วยติดตามและปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินการ่สำหรับภาคส่วนนี้

5G และบทบาทสำคัญต่อการ Transform ภาคการขนส่งและโลจิสติกส์

              ในการทำ Digital Transformation สำหรับภาคส่วน Smart Transportation & Smart Logistic นั้น หนี่งในหัวใจสำคัญที่ธุรกิจองค์กรไทยและทั่วโลกต้องเผชิญนั้นก็คือความท้าทายด้านการเชื่อมต่อเครือข่ายที่ทั่วถึง เพื่อให้การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ IoT และ Cloud นั้นเกิดขึ้นได้ในสภาพแวดล้อมที่ผลิตภัณฑ์ สินค้า และยานพาหนะต้องเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา รวมถึงเกิดการประมวลผลอย่าง Real-Time

              สำหรับการขนส่งบนเส้นทางสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์หรือเรือ 5G คือเทคโนโลยีโครงข่ายที่จะสามารถตอบโจทย์นี้ได้ในแง่ของความครอบคลุมและประสิทธิภาพที่เพียงพอต่อการเชื่อมต่อใช้งานในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการติดตามยานพาหนะผ่านอุปกรณ์ IoT, การตรวจสอบสถานะของผู้ขับขี่, การติดตามสินค้า ไปจนถึงการทำธุรกรรมหรือบันทึกข้อมูลใดๆ ซึ่ง AIS Business เองก็ได้มีการลงทุนในด้านการวางโครงข่าย 5G ให้ครอบคลุมพื้นที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย

              ส่วนการขนส่งภายในพื้นที่ของธุรกิจองค์กร 5G เองก็จะกลายเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีสำคัญเช่นกันในการเป็นเครือข่ายเชื่อมต่อหุ่นยนต์สำหรับการขนส่งภายในอาคารเข้ากับระบบ AI และ Cloud เพื่อช่วยในการตัดสินใจ, การติดตามและควบคุมสายการผลิตไปจนถึงการบรรจุหีบห่อ และจัดเก็บในคลังสินค้าแบบอัตโนมัติ, การเชื่อมต่อ Sensor ต่างๆ ที่จำเป็นต่อการทำงาน, การเชื่อมต่อกล้องวงจรปิดเพื่อส่งภาพไปประมวลผลด้วย AI และอื่นๆ อีกมากมาย

1184540764

              ความโดดเด่นของ 5G ที่ทำให้สามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้เป็นอย่างดีนั้น ก็จะมีด้วยกัน 2 ประเด็นหลักๆ ได้แก่

  • ความครอบคลุมของพื้นที่ให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่กว้างขวางระดับทั่วประเทศ ไปจนถึงการให้บริการสัญญาณเชื่อมต่อภายในอาคาร โดยมีโครงสร้างระบบที่ไม่ซับซ้อน ง่ายดายต่อการติดตั้งใช้งาน สะดวกกว่าการใช้เทคโนโลยีอย่าง Wi-Fi หรือ Bluetooth ในการเชื่อมต่อเป็นอย่างมาก โดยสามารถเลือกใช้ได้ทั้งการใช้โครงข่าย 5G ที่มีให้บริการอยู่เดิมทั่วประเทศไทย  หรือการแบ่งช่องสัญญาณเพื่อใช้งานแบบ 5G Private Network เพื่อให้มีความเป็นส่วนตัวของข้อมูล พร้อมรองรับการปรับแต่ง และรับรองคุณภาพของสัญญาณให้ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละ application การใช้งาน
  • การปรับแต่งคุณสมบัติของสัญญาณได้หลากหลาย หรือ Network Slicing ที่ธุรกิจสามารถเลือกปรับแต่งการให้บริการโครงข่ายได้หลากหลายรูปแบบภายในพื้นที่ครอบคลุมของสัญญาณเดียวกัน เพื่อรองรับรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เช่น บางระบบอาจต้องการการเชื่อมต่อที่เสถียรเสมอแต่ไม่ต้องการรับส่งข้อมูลปริมาณมหาศาลมากนัก อย่างเช่นการรับข้อมูลจาก Sensor หรือเครื่องจักรไปรวบรวมประมวลผลและตอบสนอง ในขณะที่บางระบบอาจมุ่งเน้นการรับส่งข้อมูลปริมาณมหาศาลอยู่ตลอดเวลาอย่างเช่นการส่งภาพจากกล้องวิดีโอไปประมวลผลอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น ซึ่งในจุดนี้ 5G ก็สามารถให้บริการได้เหนือกว่า Wi-Fi เช่นกัน

              ด้วยเหตุนี้เอง 5G จึงได้กลายเป็นทางเลือกหลักในการดำเนินโครงการ Digital Transformation สำหรับภาคการขนส่งและโลจิสติกส์ในทุกวันนี้ไปแล้ว

6 โซลูชันด้าน Smart Transportation & Smart Logistics จาก AIS Business ที่คุณควรรู้จัก

              เพื่อให้ภาคธุรกิจองค์กรนั้นสามารถเริ่มทำ Digital Transformation ได้อย่างง่ายดายที่สุด AIS Business จึงได้นำเสนอโซลูชันที่พร้อมให้นำไปปรับแต่งใช้งานได้ทันทีบนโครงข่าย AIS 5G ดังนี้

              1. Robotic AGV and Material Handling System หุ่นยนต์ Automated Guided Vehicle หรือหุ่นยนต์ที่เคลื่อนที่ได้โดยอัตโนมัติ เพื่อขนย้ายสินค้าภายในคลังสินค้าหรือสายการผลิต เป็นโซลูชันหนึ่งที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากภาคโรงงานและการผลิตของไทย ด้วยข้อดีในการเพิ่มประสิทธิภาพและความเร็วในการขนย้ายสินค้า, การออกแบบคลังสินค้าใหม่ให้มีการใช้งานพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น รวมถึงยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานได้เป็นอย่างดี

              โซลูชันนี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเทคโนโลยี 5G, Robot, AI และ Cloud โดยระบบ Cloud จะนำคำสั่งในการผลิตหรือเคลื่อนย้ายสินค้าวัตถุดิบไปประมวลผลและส่งคำสั่งไปยังหุ่น AGV ผ่านโครงข่าย 5G ในขณะที่ AGV จะทำการเคลื่อนที่ไปยังจุดต่างๆ โดยอาศัย AI คอยช่วยประมวลผลเส้นทางให้สามารถเดินทางไปยังปลายทางได้อย่างปลอดภัยนั่นเอง

              2. Smart Vehicle Management ระบบสำหรับติดตามยานพาหนะของธุรกิจ โดยสามารถตรวจสอบสถานะของยานยนต์, พฤติกรรมการขับขี่, ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากผู้ขับ เพื่อให้การบริหารจัดการยานพาหนะและผู้ขับขี่เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย รวมถึงสามารถตรวจสอบปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้ยานพาหนะเสียหายหรือมีปัญหาได้ล่วงหน้า และทำการแก้ไขซ่อมบำรุงก่อนที่จะเกิดปัญหาใดๆ ขึ้นจริง

              โซลูชันนี้ประกอบไปด้วยเทคโนโลยี 5G, IoT และ Cloud เพื่อเปลี่ยนยานพาหนะให้กลายเป็น Smart Vehicle โดยอาจมีการเสริมระบบ Video Analytics เพื่อใช้วิเคราะห์ผู้ขับขี่ว่ามีอาการง่วงนอน หรือมีพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยระหว่างขับขี่ได้อีกด้วย

              3. Smart Vehicle Route Planning (VRP) ระบบบริหารเส้นทางสำหรับการจขนส่งสินค้า วัตถุดิบ และผู้โดยสาร ซึ่งสามารถจัดการรับคำสั่งของตำแหน่งต้นทาง, ตำแหน่งปลายทาง, กำหนดการรับส่ง, ปริมาณการรับส่งบรรทุกสิ่งต่างๆ ในแต่ละวัน เพื่อนำมาประมวลผลและจัดทำแผนกำหนดการเดินทางในแต่ละวันที่มีประสิทธิภาพสูงสุดได้อยู่เสมอ

              โซลูชันนี้มีการผสมผสานระหว่าง 5G, Geographic Information System (GIS) และ Cloud เพื่อให้การประมวลผลกำหนดการและเส้นทางในแต่ละวันเกิดขึ้นบน Cloud โดยมีการกำหนดแผนการเดินทางจากข้อมูลของ GIS และเชื่อมต่อตำแหน่งของยานพาหนะทั้งหมดให้สามารถตรวจสอบแบบ Real-Time ได้ผ่าน 5G

              4. Smart Electronic Proof-of-Delivery (ePOD) ระบบสำหรับการตรวจรับการส่งสินค้า และติดตามการจัดส่งสินค้าไปยังจุดต่างๆ ว่ามีการรับสินค้าในช่วงเวลาใด, เดินทางอยู่บนเส้นทางใด, มีแนวโน้มว่าจะไปถึงปลายทางในเวลาใด และมีการเซ็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์เพื่อยืนยันการรับส่งสินค้าได้ในทุกจุด เพื่อใช้ในการบริหารจัดการและการเก็บหลักฐานการรับส่งสินค้าได้อย่างครบถ้วนแม่นยำ

              โซลูชันนี้มีการผสมผสานระหว่าง 5G, Mobile และ Cloud เพื่อใช้ในการบันทึกข้อมูลการรับส่งสินค้าและการเซ็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ โดยสามารถติดตามตำแหน่งของยานพาหนะได้แบบ Real-Time

1609195771

              5. 5G FWA ระบบโครงข่ายสัญญาณ 5G เพื่อนำสัญญาณไปกระจายยังอาคารสถานที่ต่างๆ ได้อย่างอิสระ เหมาะสำหรับการใช้งานเพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายในพื้นที่ที่ไม่สามารถเดินสายสัญญาณใดๆ หรือไม่คุ้มค่าต่อการเดินสายได้ ช่วยให้ธุรกิจโรงงานและการผลิตสามารถเข้าถึงระบบ IT ได้อย่างอิสระตามต้องการ

              6. AIS Paragon Platform ระบบบริหารจัดการ IT Infrastructure ครบวงจรในแบบ Edge-to-Cloud ที่ครอบคลุมถึง 5G ได้ ช่วยให้ธุรกิจที่ต้องการดูแลรักษาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้าน IT มีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการ สามารถ Deploy บริการใหม่ๆ ไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้ไม่ว่าจะอยู่บน Cloud, Edge หรือ On-Premises อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบและจัดการโครงข่าย Private 5G ที่มีการใช้งานได้อีกด้วย

              7. Smart Warehouse โซลูชันครบวงจรสำหรับการบริหารจัดการคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการผสานรวมเทคโนโลยี Cloud, AI, Robot และ IoT เข้าด้วยกัน เพื่อให้ครอบคลุมทั้งส่วนของซอฟต์แวร์บริหารจัดการคลังสินค้า, การติดตามตำแหน่งของวัตถุดิบหรือสินค้าภายในคลัง, การทำนายแนวโน้มในการบริหารวัตถุดิบหรือสินค้าภายในคลัง, การออกแบบคลังสินค้าให้เหมาะสมต่อการใช้งาน AGV, การหยิบวัตถุดิบหรือสินค้าโดยอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์ AGV เพื่อนำไปส่งยังปลายทางที่ต้องการด้วยเส้นทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุด, การวางแผนการจัดส่งวัตถุดิบหรือสินค้าจากคลังไปยังยานพาหนะ และอื่นๆ อีกมากมาย

              ส่วนสำคัญของโซลูชันนี้ไม่ได้มีเพียงแค่เทคโนโลยีที่ครบเครื่องเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความรู้และประสบการณ์ของทีมงาน AIS Business ที่จะเข้าไปช่วยออกแบบคลังสินค้าแห่งอนาคต ให้ตอบโจทย์ต่อการทำงานของธุรกิจด้วยต้นทุนที่เหมาะสมได้อีกด้วย

              โซลูชันเหล่านี้ถือเป็นส่วนสำคัญของ AIS Business ในการต่อยอดวิสัยทัศน์ Smart Supply Chain ที่ก่อนหน้านี้ AIS Business ได้เคยนำเสนอโซลูชัน Smart Manufacturing ต่อภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมไปแล้ว และในครั้งนี้ การนำเสนอโซลูชัน Smart Transportation และ Smart Logistics ก็จะเติมเต็มภาพของ Supply Chain แห่งอนาคตได้อย่างครบถ้วนมากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ได้ทั้งธุรกิจโรงงานและการผลิต ไปจนถึงธุรกิจขนส่ง ค้าปลีก และอื่นๆ อีกมากมาย ที่การจัดการคลังสินค้าและการขนส่งวัตถุดิบหรือสินค้านั้นมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก

              นอกจากนี้ ด้วยแนวโน้มด้าน Sustainability ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก โซลูชัน Smart Transportation และ Smart Logistics ก็จะเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ถูกจับตามองในฐานะของระบบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับธุรกิจที่ต้องการลดการผลิตคาร์บอนอย่างเห็นผล ด้วยการวางแผนการขนส่งและจัดการคลังสินค้าที่ดี ก็จะช่วยลดการเดินทางที่ไม่จำเป็นลง และส่งผลไปยังการลดการใช้พลังงานและการสร้างคาร์บอนให้น้อยลงไปด้วยในเวลาเดียวกัน รวมถึงยังช่วยลดความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในการเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน และรับมือกับสภาวะการขาดแคลนแรงงานของประเทศไทยที่กำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยได้อีกด้วย

              สนใจใช้งาน AIS 5G หรือโซลูชัน Smart Transportation & Smart Logistics ติดต่อทีมงาน AIS Business ได้ทันทีหรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ais.th/business/enterprise/industries/transportation-and-logistic

วันที่เผยแพร่ 27 กันยายน 2566

AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
"Your Trusted Smart Digital Partner"

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
Email : [email protected]
Website : https://www.ais.th/business

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อแนะนำโซลูชันที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ 

สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก AIS Business เพื่อให้คำปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล 
สำหรับรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ทันที