จะซื้อสมาร์ทโฟนใหม่ทั้งที นอกจากดีไซน์ ต้องเลือกจากอะไรบ้าง ?

ในแต่ละปีค่ายมือถือต่าง ๆ ก็ได้ผลิตสมาร์ทโฟนสุดเจ๋งออกมาแข่งกันในตลาดมากมายเลยใช่ไหมครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์ ฟังก์ชัน หรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้ชีวิตของเรามากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว หลาย ๆ คนมักเลือกจากดีไซน์ หรือไม่ก็ซื้อตามความเคยชินของระบบปฏิบัติการที่ใช้อยู่ เช่น บางคนอาจจะถนัดใช้ Android หรือบางคนถนัด iOS มากกว่า ซึ่งจริง ๆ แล้ว เวลาจะซื้อมือถือใหม่แต่ละครั้ง การตัดสินใจจากปัจจัยเหล่านี้อาจจะไม่เพียงพอก็ได้นะครับ วันนี้ผมเลยจะพาทุกคนมาดูว่าถ้าเราจะเลือกซื้อสมาร์ทโฟนทั้งที ควรดูจากอะไรบ้าง?

จะซื้อสมาร์ทโฟนใหม่ทั้งที นอกจากดีไซน์ ต้องเลือกจากอะไรบ้าง

“ระบบชิปเซต” อยากได้แรงแค่ไหน ต้องเช็กดูให้ดี

สิ่งที่เราพลาดไม่ได้เลย ก่อนตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟนตัวดังทั้งหลาย นั่นก็คือ CPU หรือ ชิปเซตต่าง ๆ ของสมาร์ทโฟนรุ่นนั้น ๆ ซึ่งยังมีหลายคนที่อาจจะสงสัยว่า ชิปเซตคืออะไร? ชิปเซตประมวลผล หรือ หน่วยประมวลผล จะทำหน้าที่รับคำสั่งต่าง ๆ และนำไปประมวลผลตามความต้องการใช้งาน เช่น การเข้าแอปพลิเคชัน การเปิดกล้อง และอื่น ๆ ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งชิปเซตมีประสิทธิภาพดีเท่าไหร่ การใช้งานก็ยิ่งลื่นไหล รวดเร็วมากขึ้น

ซึ่งชิปเซตที่ได้รับความนิยมก็มีจากหลายค่ายเลยครับ เช่น Qualcomm (Snapdragon), Exynos, Kirin, MediaTek เป็นต้น ซึ่งแต่ละค่ายต่างก็ผลิตชิปเซตออกมาหลายรุ่น เพื่อรองรับทั้งสมาร์ทโฟนระดับเรือธง ระดับท็อปไปจนถึงสมาร์ทโฟนราคาประหยัดเลยครับ

ในปัจจุบันชิปเซตที่คาดว่าน่าจะเร็วที่สุดในโลกขณะนี้ คือ “Snapdragon 888” จากค่าย Qualcomm ซึ่งหากเทียบกับฝั่ง Apple แล้ว ก็ยังพอสูสี กับ Apple A13 ได้ แต่ยังเทียบกับตัว Apple A14 ไม่ได้ซะทีเดียว เอาเป็นว่าใครที่เป็นสาวก Android เตรียมจับตาไว้ให้ดีเลยครับ

Snapdragon 888

RAM / ROM เยอะ ยิ่งเร็ว ไม่มีกระตุก

RAM (Random Access Memory)

สำหรับสมาร์ทโฟน RAM ถือเป็นอีกหัวใจหนึ่งที่ขาดไม่ได้พอ ๆ กับชิปเซตเลยครับ โดย RAM สมาร์ทโฟน จะทำหน้าที่เป็นหน่วยความจำสำหรับพักข้อมูลของโปรแกรมที่เรากำลังใช้งานอยู่ในขณะนั้น เพื่อให้หน่วยประมวลผลเข้าถึงได้ทันที

ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟน การดูค่า RAM จึงสำคัญเหมือนกัน สมมุติถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเล่นเกม ก็อาจจะต้องลองเลือกสมาร์ทโฟนที่ RAM ประมาณ 3GB ขึ้นไป ถึงจะชัวร์ที่สุดครับ แต่ถ้าเกิดคุณไม่ได้เอาไว้เล่นเกมเป็นหลัก แค่ใช้เล่นโซเชียลมีเดีย หรือเข้าแอปฯ ปกติ แค่เลือก RAM ประมาณ 1GB ก็ใช้งานได้ลื่นแล้วครับ

ROM (Read Only Memory)

คือ หน่วยความจำถาวรของสมาร์ทโฟนที่ให้มาบนเครื่อง คล้าย ๆ กับ Hard Disk ที่เอาไว้เก็บข้อมูลบนเครื่องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแอปฯ เพลง วิดีโอ ไฟล์ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ 8GB ไปจนถึง 512GB ถ้าให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็เหมือนกับหน่วยความจำของ iPhone เวลาที่เราเลือกซื้อเครื่องนั่นแหละครับ เช่น iPhone 12 ที่มีให้เลือกหน่วยความจำ 64GB 128GB 256GB และ 512GB เป็นต้น ซึ่งขนาดความจุที่แนะนำควรอยู่ที่ 128GB ขึ้นไป เพื่อการใช้งานที่เพียงพอในระยะยาวนะครับ

หน้าจอ เติมเต็มอรรถรสการใช้งาน

หน้าจอ เติมเต็มอรรถรสการใช้งาน

ขนาด

เรื่องหน้าจอใครว่าไม่สำคัญ เพราะในปัจจุบันสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่เริ่มขยายหน้าจอขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 5.5-6 นิ้ว หรือมากกว่านั้น หากใครที่มั่นใจแน่ ๆ ว่าจะใช้สมาร์ทโฟนไว้เล่นเกม ดูซีรีส์ หรือเล่นโซเชียล ก็อาจจะเลือกหน้าจอขนาดใหญ่ ๆ ไว้ก่อนได้นะครับ

แต่ทั้งนี้สมาร์ทโฟนจอใหญ่ ๆ ก็อาจจะไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน เพราะการใช้สมาร์ทโฟนที่หน้าจอใหญ่กว่ามือ อาจจะทำให้เกิดการเกร็ง และใช้งานเอ็นบริเวณข้อมืออย่างผิดปกติ อาจส่งผลให้เกิดอาการเอ็นข้อมืออักเสบได้นะครับ ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อมือถือใหม่ คุณอาจจะทดลองจับตัวเครื่องที่ช็อปดูก่อนได้นะครับ

การแสดงผล

การแสดงผลของหน้าจอก็สำคัญไม่แพ้กัน ในปัจจุบันสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่น อาจจะใช้ชนิดของหน้าจอที่มีฟังก์ชันทั่ว ๆ ไป หรือระดับ Advance โดยประเภทหน้าจอที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย ได้แก่ TFT LCD, IPS LCD, OLED, AMOLED และ Super AMOLED เป็นต้น ซึ่งคุณสมบัติเด่น ๆ ของหน้าจอแต่ละชนิด มีดังนี้ครับ

TFT LCD: คุณภาพแสดงผลสำหรับการใช้งานทั่ว ๆ ไป ราคาค่อนข้างถูกกว่าจอประเภทอื่น

IPS LCD: ต่อยอดมาจาก TFT แต่ละพิกเซลจะมีตัวส่งสัญญาณ 2 ตัว ทำให้สีสันสดใส มุมมองการแสดงผลกว้าง

OLED: เป็นจอที่ใช้แผ่นฟิล์มที่มีส่วนประกอบของสารอินทรีย์ ทำให้เปล่งแสงได้ด้วยตัวเอง เมื่อกระตุ้นด้วยไฟฟ้าจึงไม่ต้องใช้ Blacklight โดยสีดำบนจอ OLED จะเกิดจากการตัดไฟ ทำให้กินไฟน้อยลง และยังมีขนาดบางกว่า LCD มาก อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่น สามารถโค้งงอได้ ให้การแสดงสีและความสว่างหน้าจอมากกว่า LCD ครับ

AMOLED: อัปเกรดจาก OLED ด้วยการเพิ่มเทคโนโลยี Active Matrix เข้าไป ทำให้การแสดงผลดียิ่งขึ้น สีดำจะดำสนิท ส่วนสีสันจะสว่างและสดใสกว่าเดิม

Super AMOLED: เป็นหน้าจอที่พัฒนามาจาก AMOLED ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างใหม่ โดยแทรกเซนเซอร์รับสัมผัสหน้าจอเข้าไปในจอ ทำให้หน้าจอบางลง อีกทั้งจอยังสว่างขึ้น สู้แดดได้ดี มีมุมมองที่กว้างขึ้น และยังประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วย

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่

สมัยนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเราแทบจะใช้สมาร์ทโฟนกันตลอดเวลา ดังนั้นสิ่งสำคัญ คือ ต้องไม่ลืมดูความจุแบตเตอรี่กันด้วยนะครับ ยิ่งหลัง ๆ มานี้ ค่ายมือถือดัง ๆ ต่างแข่งกันผลิตสมาร์ทโฟนระดับท็อปที่ให้ความจุแบตค่อนข้างเยอะ เพื่อให้เราได้ใช้งานอย่างต่อเนื่องได้มากที่สุด ซึ่งการเลือกสมาร์ทโฟนควรเลือกความจุแบตอย่างน้อยที่ 3500mAh น่าจะกำลังดีครับ

ส่วนใครเป็นคนที่เล่นเกมบ่อยหรือใช้โทรศัพท์ทั้งวัน แนะนำให้เลือกแบตเตอรี่ที่มีความจุ 4500mAh ขึ้นไปก็น่าจะเหมาะ ที่สำคัญยิ่งรองรับชาร์จเร็วได้ ยิ่งเวิร์กมากสำหรับคนที่ต้องการใช้งานแบบยาว ๆ ครับ

หลัก ๆ สำหรับการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนก็จะมีประมาณนี้แหละครับ ส่วนเรื่องฟังก์ชันไม่ว่าจะเป็นกล้อง หรือฟีเจอร์อื่น ๆ ผมเชื่อว่าเป็นส่วนที่ทุกคนไม่น่าพลาดอยู่แล้ว เพียงแต่จะมีเรื่องสเปกเครื่องนี่แหละครับ ที่หลายคนอาจจะมองข้ามกันไปบ้าง ทั้งนี้หากใครได้สมาร์ทโฟนที่ถูกใจแล้ว ต้องไม่ลืมที่จะใช้งานคู่กับสัญญาณ 5G ที่เร็วและแรงที่สุด อย่าง AIS 5G เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดกันนะครับ สามารถช้อปกันได้ที่ https://m.ais.co.th/YyHVlV9hE เพราะเอไอเอสได้รวบสมาร์ทโฟนสุดเจ๋ง ที่ตอบโจทย์การใช้งานของทุกคนมาไว้ให้แล้ว นอกจากนี้ยังมีโปรโมชัน และแพ็กเกจสุดพิเศษมากมาย พลาดไม่ได้เลยนะครับ!